เมืองคองโมเดล หมู่บ้านนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์

โดย นวรัตน์ พรหมอุปถัมภ์
วันที่ : 25 กรกฎาคม - 6 สิงหาคม 2567

มหาวิทยาลัยเทคโนยีราชมงคลล้านนา เชียงใหม่ ดำเนินโครงการเมืองคองโมเดล หมู่บ้านนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ ปี 3 ภายใต้แพลตฟอร์มบ่มเพาะหมู่บ้านวิทยาศาสตร์ โดยได้รับทุนสนับสนุนงบประมาณการส่งเสริมการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตและเศรษฐกิจชุมชน 

ชุมชนเมืองคอง ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่มีความต้องการพัฒนาด้านกิจกรรม และระบบการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ผ่านการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ และสื่อออนไลน์ และมีความสนใจเพิ่มมากขึ้นในด้านการอนุรักษ์สายพันธุ์ปลาพื้นเมือง คือ ปลากลมมอนหรือ ปลาเลียหิน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้นำชุมชน สถาบันการศึกษา เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ เริ่มมีจิตสำนึกและมีความกระตือรือร้นในการอนุรักษ์ปลากลมมอนอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากในปีที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวนปลากลมมอนในแหล่งน้ำธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น มีการรับซื้อปลา และจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว ไม่น้อยกว่า 400 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 500 บาท สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างมาก

ในปี 2567  ดร.นวรัตน์ พรหมอุปถัมภ์ หัวหน้าโครงการได้ทำกิจกรรมเชิงบูรณาการศาสตร์ต่างๆ เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ ในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินกิจกรรมการคัดเลือกแม่พันธุ์ปลา การพัฒนาต้นแบบบ่อเพาะเลี้ยงปลาระบบปิดและการอนุบาลปลาในระยะยาว  ( 25 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม พ.ศ.2567)

ผู้ร่วมกิจกรรม

            1. กลุ่มเพาะเลี้ยงปลามอน ชุมชนหมู่ 3

            2. ผู้แทนและสมาชิก อบต. เมืองคอง

            3. อาจารย์จาก มทร.ล้านนา น่าน และเชียงใหม่

ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

            1. ชุมชนเมืองคอง ทั้ง 6 หมู่บ้าน

            2. เยาวชนและสถาบันการศึกษาในพื้นที่

ผลผลิต

1.     ต้นแบบบ่อเพาะเลี้ยงปลาในระบบปิด

2.     ลูกปลามอน จำนวนประมาณ 250,000 ตัว

ผลลัพธ์

1.     ผู้นำชุมชนทั้ง 6 หมู่บ้านได้มีส่วนร่วมในกระบวนการปล่อยปลาที่เพาะได้ลงสู่ลำน้ำ

2.     เพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ปลากลมมอนให้มีมากขึ้น

 

สรุปผลการดำเนินกิจกรรม

คณะทำงาน นักวิจัย ทำงานร่วมกับชุมชนในพื้นที่ในการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ปลากลมมอน จากแหล่งน้ำธรรมชาติ และการจัดทำระบบบ่อเพาะเลี้ยงปลาในระบบปิด

กิจกรรมปล่อยปลามอญที่ตำบลเมืองคอง เป็นงานสำคัญที่ชุมชนร่วมกันจัดขึ้นเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องถิ่น โดยเฉพาะปลามอญที่ถือเป็นสัญลักษณ์และมีความสำคัญต่อระบบนิเวศของพื้นที่ โดยมีการเชิญชวนชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมปล่อยปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติ เป็นการเสริมสร้างความสามัคคีและตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

รายละเอียดงาน:

  1. วันที่จัดงาน: 2 สิงหาคม 2567
  2. สถานที่: บริเวณแหล่งน้ำในตำบลเมืองคอง
  3. กิจกรรมหลัก:
    • ปล่อยปลามอญจำนวนมาก
    • พิธีเปิดงานโดยผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่
    • การให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อม
    • การจัดบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและอาหารพื้นบ้าน
  4. วัตถุประสงค์:
    • ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ
    • เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์ธรรมชาติ
    • สร้างการตระหนักถึงความสำคัญของระบบนิเวศและปลามอญ

กิจกรรมปล่อยปลามอญที่ตำบลเมืองคอง เป็นงานสำคัญที่ชุมชนร่วมกันจัดขึ้นเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องถิ่น โดยเฉพาะปลามอญที่ถือเป็นสัญลักษณ์และมีความสำคัญต่อระบบนิเวศของพื้นที่ โดยมีการเชิญชวนชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมปล่อยปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติ เป็นการเสริมสร้างความสามัคคีและตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

กิจกรรมปล่อยปลามอญที่ตำบลเมืองคองสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) หลายข้อ ดังนี้:

  1. SDG ข้อที่ 14: การใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน
    กิจกรรมนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำและระบบนิเวศทางน้ำ ช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่นและส่งเสริมการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
  2. SDG ข้อที่ 15: การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางบกอย่างยั่งยืน
    กิจกรรมนี้เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและการฟื้นฟูระบบนิเวศที่อยู่ติดกับแหล่งน้ำ เพิ่มการมีส่วนร่วมของชุมชนในการปกป้องและฟื้นฟูพื้นที่ทางธรรมชาติ
  3. SDG ข้อที่ 17: ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
    กิจกรรมนี้ยังสร้างโอกาสในการรวมพลังของชุมชน ผู้นำท้องถิ่น และองค์กรต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันอย่างยั่งยืน
  4. SDG ข้อที่ 6: การจัดการน้ำและสุขาภิบาลอย่างยั่งยืน
    การปล่อยปลามอญในแหล่งน้ำเป็นการส่งเสริมความสมดุลของระบบนิเวศทางน้ำ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการจัดการน้ำที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของชุมชนในระยะยาว